***ส่งชุดเฉพาะกิจฯ รุดตรวจสอบช่วยเหลือพร้อมมอบสิทธิประโยชน์ทันที***
วันที่ 1 ธันวาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง กรณีเกิดเหตุโรงงานผลิตพลุและดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมสั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้าง ที่ได้รับผลกระทบทันที ผมจึงได้มอบหมายให้ นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นหัวหน้าคณะนำทีมชุดเฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงพร้อมมอบสิทธิประโยชน์แก่ญาติผู้เสียชีวิตและเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บด้วย เบื้องต้นได้รับรายงานว่า
โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่กลางทุ่งนาในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มีลูกจ้างทั้งหมด 30 คน ประกอบกิจการผลิตพลุและดอกไม้ไฟ เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น. (30 พฤศจิกายน 2565) ขณะที่คนงานกำลังนั่งพันเทประเบิดปิงปอง (ระเบิดไล่นก) ได้เกิดกลุ่มควันขึ้นในโรงเก็บกระสอบถ่าน จึงได้ช่วยกันนำถังดับเพลิงไปฉีดพ่น แต่เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงจนไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้ นายบัวลอย บุญประเสริฐ อายุ 53 ปี เสียชีวิตทันที และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเข้าช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้าง ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานชุดเฉพาะกิจฯ กล่าวว่า ในวันนี้ผมได้รับมอบหมายจากท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้นำคณะทำงานชุดเฉพาะกิจฯ พร้อมด้วย นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน
ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้เข้าพบหารือกับท่านณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อรายงานข้อเท็จจริงและการช่วยเหลือในส่วนของกระทรวงแรงงาน
พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ มอบสิทธิประโยชน์แก่ญาติผู้เสียชีวิตและเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บด้วย ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้ให้พนักงานตรวจความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสุพรรณบุรี และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 7 (ราชบุรี) เชิญนายจ้างและผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมถึงสาเหตุดังกล่าว พร้อมตรวจสอบว่า มีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2556 หรือไม่ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้สถานประกอบกิจการกำชับให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ หรืออุบัติเหตุซ้ำซ้อน หากนายจ้าง/เจ้าของสถานประกอบกิจการใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองความปลอดภัยแรงงาน โทรศัพท์ 0 2448 9128-39 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1506 กด 3 และ 1546
นายวรรณรัตน์ ฯ ยังได้ลงพื้นที่มอบสิทธิประโยชน์แก่ทายาทของผู้เสียชีวิต ซึ่งในส่วนของผู้เสียชีวิตสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสุพรรณบุรีได้ตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตมีประกันสังคมมาตรา 33 สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสุพรรณบุรีจึงได้ประสานไปยังภรรยาของผู้เสียชีวิต ชื่อนางเสวียน บุญประเสริฐ เพื่อแจ้งข้อมูลสิทธิประโยชน์ให้ทราบเบื้องต้นทายาทได้รับสิทธิสิทธิประโยชน์เป็นค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 90,000 บาท และกรณีชราภาพ 100,599 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 240,599 บาท จากนั้นนายวรรณรัตน์และคณะ ยังได้ลงพื้นที่ไปยังโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เพื่อมอบของเยี่ยมให้กำลังใจแก่ผู้บาดเจ็บอีกด้วย
ประชาสัมพันธ์ กระทรวงแรงงาน
โย นสพ.ประเด็นรัฐ