22 กันยายน 2024
Home » Blog » เลขาธิการ สพฉ. เปิดการประชุมวิชาการ “ท้องถิ่นยุคใหม่ ประชาชนมั่นใจ การแพทย์ฉุกเฉินไทยได้มาตรฐาน

ที่สุพรรณบุรี เมื่อวันนี้ (5 ก.ค.66) ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี เรืออากาศเอก นายแพทย์อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับชาติ ครั้งที่ 7 “ท้องถิ่นยุคใหม่ ประชาชนมั่นใจ การแพทย์แผนไทยได้มาตรฐาน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 7 กรกฎาคม 2566 โดยมี นายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี , นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้บริหาร นักวิชาการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้ปฏิบัติงานจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิและนิติบุคคลต่าง ๆ เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน เข้าร่วมงาน

เรืออากาศเอก นายแพทย์อัจฉริยะ กล่าวว่า การจัดประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับชาติได้จัดมาเป็นประจำทุกปี ในปีนี้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเจ้าภาพหลัก โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ในหัวข้อ “ท้องถิ่นยุคใหม่ ประชาชนมั่นใจ การแพทย์ฉุกเฉินไทยได้มาตรฐาน” คณะกรรมการผู้จัดได้เสนอรูปแบบการพัฒนาคุณภาพบริการ การมีส่วนร่วมปฏิบัติการของภาคีเครือข่ายเพื่อการเข้าถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการดำเนินงานระบบการแพทย์ฉุกเฉินของไทย ที่กำหนดในแผนหลักการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ พ.ศ. 2553-2555 ดังนั้นสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติและจังหวัดสุพรรณบุรี

จึงได้กำหนดวัตถุประสงค์ร่วมกันเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ทราบมาตรฐานการดำเนินงาน พร้อมกระตุ้นให้มีหน่วยปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานพร้อมให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชม. ในทุกพื้นที่ของประเทศ

โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วน ที่มีส่วนร่วมพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินมาตั้งแต่ต้น ได้มาบรรยายและเสนอรูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสม รวมทั้งแสดงผลงานการพัฒนาในระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่ประสบผลสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับ และซี้ให้เห็นว่าหลังจากมีพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 คนไทยจะได้รับประโยชน์อย่างไรภายใต้กฎหมายฉบับนี้


นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุม้เสนอความเห็นเพื่อเป็นการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินในอนาคต ซึ่งทุกองค์กรพร้อมที่จะนำนโยบายและแนวคิดที่ได้จากการประชุมไปพัฒนาให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ผู้รับบริการการแพทย์ฉุกเฉินในและนอกเขตเมือง ได้มีโอกาสเข้าถึงการบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานด้วยระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึง และเท่าเทียมกับประชาชนในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว

ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ จะได้นำรูปแบบการดำเนินงานที่สังคมให้การยอมรับไปเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อนานาประเทศต่อไป

รัชนีกร โพธิ์ไพจิต สุพรรณบุรี รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *