ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดชัยเภรีย์(วัดบ้านโข้ง) จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการปั้นรูปเหมือนหลวงเตี่ย ทรงหนุมานใส่แว่นตา( พญาลิงเผือกเรียกทรัพย์) ซึ่งเป็นวัดที่ใครผ่าน ทางหลวงหมายเลข333 ก็จะสะดุดตากับหนุมาน ใส่แว่นตาดำ จนต้องแวะกราบไหว้ขอพร เหมาะสำหรับสามู สำหรับวัดชัยเภรีย์(บ้านโข้ง) ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
ประวัติวัดชัยเภรีย์ เลขที่ ๑ หมู่ที่ ๓ ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี วัดชัยเภรีย์ประกาศตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๘ ตามหนังสือรับรองสภาพวัด ถิ่นฐานดั้งเดิม ชาวบ้านโข้งได้อพยพมาจากกรุงเวียงจันทร์ แขวงคำม่วน ในสมัยเกิดสงครามมี “พ่อเฒ่ากลองทา” ได้พาลูกหลานอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่บ้านสมอลม ปัจจุบันคืออำเภอสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี เนื่องจากการทำมาหากินในสมัยนั้นไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ จึงได้พาลูกหลานย้ายบ้านมาจากบ้านสมอลมมาตั้งถิ่นฐาน ณ หมู่บ้านโข้งแห่งนี้เพราะเป้ยชื่อเก่านามเดิมของกรุงเวียงจันทร์
พ่อเฒ่าทาได้พาลูกหลานสร้างวัดขึ้นเนื้อที่ ๔ ไร่ ต่อมามีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่า “หลวงพ่อคูหา” เดินทางมาจากกรุงเวียงจันทร์ได้นำพระพุทธรูปเนื้อทองสัมฤทธิ์ ๓ องค์ และระฆังเนื้อทองสัมฤทธิ์ ๑ ลูก มาถวายให้แก่วัด จากนั้นพ่อเฒ่ากลองทาได้พาลูกหลานขุดกลองเพลขึ้น ๑ ลูก เพื่อถวายให้แก่วัดหลวงพ่อคูหากับพ่อเฒ่าทาได้ปรึกษาหารือกันว่าจะตั้งชื่อวัดให้เป็นมงคลนาม ได้ไล่โฉลกกลอง ให้เป็นมงคลว่า ชัยเภรีย์ ศสีชมชื่น หื่นเมืยงคม สมอยู่สร้าง ม่างสังโฆ โพธิสัตว์ วัดพระเจ้า ว่าโฉลกนี้ดีแล้วหนอตก “ชัยเภรีย์” กลองชัยเภรีย์เป็นกลองเพลใหญ่โดนใช้ชื่อสืบเนื่องมาจากโบราณ เป็นกลองในตำนานที่นางพิมพาไลย์ตีเล่นเมื่อเป็นเด็กน้อย เป็นกลองที่ตีเมื่อชนะศึกสงครามจึงได้นำเอานามนี้มาตั้งเป็นชื่อวัดชัยเภรีย์อันเป็นมงคลนามจนถึงปัจจุบัน
วัดชัยเภรีย์แห่งนี้เดิมตังอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านโข้ง ชาวบ้านเห็นว่าสถานที่คับแคบไม่เพียงพอต่อการสร้างศาสนสถานให้ภิกษุสงฆ์ปฏิบัติกิจต่างๆ จึงเห็นสมควรมาสร้างวัดชัยเภรีย์ ณ สถานที่ปัจจุบันเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ ห่างจากหมู่บ้าน ๓๐๐ เมตร มีเนื้อที่ ๒๒ ไร่ ๓ งาน ต่อมา พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงพ่อบุญคล้ำได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อตอนอายุ ๑๑ ขวบได้ดูแลวัดชัยเภรีย์ ชึ้งขนาดนั้นไม่มีเจ้าอาวาส กระทั่งถึง พ.ศ.๒๕๓๑ หลวงพ่อบุญค้ำได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมี ท่านพระเดชพระคุรพระธรรมราชานุวัตร (หลวงเตี่ย) วัดพระเชตุพลมังคลารามราชวรมหาวิหารเป็นพระอุปัชฌาย์อุปสมบทให้โดยได้รับ ฉายาว่า ปุญญปภฺโภ จึงได้สืบสานต่อพระพุทธศาสนาพัฒนาวัดจนได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดชัยเภรีย์เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๒ ปัจจุบันวัดชัยเภรีย์รุ่งเรืองตลอดมา
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.sangha14.org/index.php?url=temple&id=374
พิษณุ ปาละสิงห์ ผู้สื่อข่าว นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ รายงาน