22 กันยายน 2024
Home » Blog » องค์กรพลังชาวพุทธ ร้องกองปราบฯ ตรวจสอบกลุ่มสั่งสอนปลุกระดมด้อยค่าพระศาสนา
ร้องกองปราบฯ

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธัมโม (เสาวภาค โชติรส) ประธาน ภาคีเครือข่ายองค์กรพลังชาวพุทธ และ ได้เข้าแจ้งความ เพื่อให้ทำการตรวจสอบกลุ่มบุคคล ที่กระทำการเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือไม่ โดยมี 1.พระสงฆ์ รูปหนึ่ง 2.นางเอ(นามสมมุติ)และ พรรคพวก 3. นายบี(นามสมมุติ) และพรรคพวก

โดยมีพฤติกรรม คือจัดประชุม เสวนาบรรยาย และจัดรายการผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย Facebook,YouTube,TikTok ปลุกระดมประชาชนให้เกิดความสับสนในหลักธรรมความเชื่อคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนมีประชาชนหลงเชื่อเป็นจำนวนมากและอาจกระทำการผิดกฏหมายบ้านเมื่อง เกิดความเกลียดชังกันในหมู่ประชาชนและอาจลุกลาม กลายเป็นก่อม็อบจลาจลขึ้นมาได้ ดังปรากฏม็อบก่อจลาจลขับไล่พระสงฆ์ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ

ข้อ 1 สันนิษฐานว่าน่าจะได้รับอิทธิพลความคิด ความเชื่อที่ผิดจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นสำคัญ คือพฤติกรรมที่มีการสั่งสอนปลุกระดมประชาชนให้มีการด้อยค่า

  • ด้อยค่าพระไตรปิฎกให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน
  • ด้อยค่าพระอรหันตสาวก
  • ด้อยค่าพระสงฆ์สาวก
  • ด้อยค่าคำอรรถกถาจารย์
  • ด้อยค่าพระพุทธรูป
  • ด้อยค่าประเพณีวัฒนธรรมไทยวิถีพุทธ
  • ด้อยค่าพิธีกรรมของสถาบันพระมหากษัตริย์
  • แสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบจากการรับบริจาคและประกอบอาชีพค้าขายพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยมิชอบหรือไม่? (สัทธรรมปฏิรูป)

ข้อ 2 สันนิษฐานว่าบุคคลทั้ง 3 คน 3 กลุ่มนี้ รับงานรับเงินมาจากลัทธิต่างศาสนาหรือไม่ เพื่อมาทำลาย พระพุทธศาสนาในประเทศไทย เพราะว่า มีพฤติกรรม คำพูด ความคิด การกระทำไปในทิศทางเดียวกัน
ข้อ 3 พระสงฆ์รูปดังกล่าว ได้มีคดีความฟ้องร้องกัน และปัจจุบันก็มีการฟ้องร้องกันอยู่ในกลุ่มศิษยานุศิษย์ด้วยกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างออกมาแฉพฤติกรรมซึ่งกันและกันในข้อหาฉ้อโกง หรือข้อหาปาราชิก ซึ่งเป็นข้อหาที่ร้ายแรง คือขาดจากความเป็นพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา แต่พระสงฆ์รูปดังกล่าว ยังสามารถดำรงตนอยู่ได้ จะด้วยอิทธิพลอำนาจทางการเมือง ทางสังคม และเงินตรา ที่มีจำนวนมากมายหลายพันล้านบาท หรือไม่?

ผู้ร้องจึงได้เข้าร้องทุกข์พร้อมหลักฐาน โดยมีพนักงาน ร้อยเวร ร.ต.อ ทรงวุฒิ นิยมพงษ์ รอง สว.(กองสอบสวน กก.2 บก.ป.) เป็นผู้รับเรื่องร้องทุกข์ ที่กองบังคับการปราบปราม ให้ทำการตรวจสอบ หากพบว่ามีพฤติกรรมกระทำความผิดจริง ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และได้เดินทางไปยังกรรมาธิการ รัฐสภา เพื่อยืนหนังสือร้องเรียนให้กับ นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองที่ปรึษาประจำสำนักกรรมาธิการ เสร็จแล้วได้เดินทางต่อไปยัง สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และได้ยื่นหนังสือให้กับ นาย สุทธิศักดิ์ สมุน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกฏหมาย / รองโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. เป็นผู้รับเรื่อง และดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

กนกศักดิ์ พูนพนัง ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ประชาไทนิวส์ ออนไลน์ รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *