รับการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เป็นการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับกลุ่มผู้ต้องขังดังกล่าว เมื่อมีอาชีพที่สามารถพึ่งตนเองได้แล้ว จะได้ไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก อันจะเป็นการป้องกันภัยให้กับสังคมอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.67 เวลา 10.30 น. ที่เรือนจำกลางกำแพงเพชร นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานเปิดเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร เรือนจำชั่วคราวแม่ระกา สังกัดเรือนจำกลางกำแพงเพชร โดยมี ดร.ฐิติพันธุ์ มนูจันทรัถ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางกำแพงเพชร กล่าวรายงาน มีผู้บัญชาการเรือนจำกลางในเขต 6 หัวหน้าสวนราชการ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี บริเวณด้านหน้าโดยรอบได้มีการออกร้านนิทรรศการเป็นผลิตภัณฑ์ของผู้ต้องขังและเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรรมโคกหนองนา
ดร.ฐิติพันธุ์ มนูจันทรัถ กล่าวว่า สำหรับโครงการดังกล่าว กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ได้มอบนโยบายให้เรือนจำทัณฑสถานทั่วประเทศความพร้อมทางด้านกายภาพ ให้ดำเนินการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ตนรับผิดชอบให้เกิด โดยให้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาจำกลางกำแพงเพชรได้นำนโยบายดังกล่าวมาสู่การปฏิบัติ โดยการพัฒนาที่เรือนจำกลางกำแพงเพชร และพื้นที่เรือนจำชั่วคราวแม่ระกาทั้งหมด ให้เป็นพื้นที่เชิงเกษตร
มุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเรือนจำ และการฝึกวิชาชีพให้กับผู้ที่ใกล้พ้นโทษที่เข้าเกณฑ์การจ่ายออกทำงานภายนอกเรือนจำ และเข้าเกณฑ์คัดย้ายไปอยู่ประจำที่เรือนจำชั่วคราวแม่ระกา ให้ได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เป็นการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับกลุ่มผู้ต้องขังดังกล่าว เมื่อมีอาชีพที่สามารถพึ่งตนเองได้แล้ว จะได้ไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก อันจะเป็นการป้องกันภัยให้กับสังคมอย่างยั่งยืน
โดยเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร เรือนจำชั่วคราวแม่ระกา แบ่งพื้นที่การดำเนินงานออกเป็น 2 ด้านหลัก ๆ คือด้านการให้บริการ และด้านการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เกษตรแบบกสิกรรมธรรมชาติตามแนวทางศาสตร์พระราชา โดยในแต่ละฐานจะมีการฝึกอบรมผู้ต้องขังให้ลงมือทดลองปฏิบัติจริง ถอดบทเรียน สรุปเป็นองค์ความรู้ในขั้นที่สามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป และคณะศึกษาดูงาน ที่เข้ามาศึกษาดูงานได้เป็นการขับเคลื่อนนโยบาย 8 มิติ ยกระดับสร้างการเปลี่ยนแปลง และการยกระดับการสร้างการยอมรับ และสร้างความเชื่อมั่นของผู้ต้องขังต่อสังคม
ด้าน นายสหการณ์ เพชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นอกจากภารกิจของเรือนจำจะเป็นการดำเนินการด้านการควบคุมผู้ต้องขังแล้ว ยังสามารถยกระดับการเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ให้รู้จักคิดดี ทำดี เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม เพราะเมื่อผู้ต้องขังได้รับการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน ได้รับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู มีทักษะในการประกอบอาชีพ ประกอบกับสังคมมีทัศนคติที่ดี เข้าใจ และให้โอกาส จะช่วยให้เขาเหล่านั้นกลับตนเป็นพลเมืองที่ดี และอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างแท้จริง
พงศภัค มั่นดี ทีมข่าว นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์