เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลา 10.30 น.นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการ“มหกรรมแก่หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม”จังหวัดเพชรบุรี ครั้งที่ 47 พร้อมด้วย นายเลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน เข้าร่วมร่วมงาน บริเวณ อาคารสุเมธตันติเวชกุล มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี อ. เมือง จ. เพชรบุรี
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยหลายคนเดือดร้อนเป็นผลต่อเนื่องตั้งแต่ สถานการณ์โควิด – 19 จนถึงปัจจุบัน มีลูกหนี้จำนวนมากผิดนัด ขาดผ่อนส่งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ขาดการชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินเรื่องที่อยู่อาศัย หนี้บัตรเครดิต รวมถึงหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งเป็นหนี้ครัวเรือนที่ถือได้ว่าเป็นหนี้ก้อนใหญ่ของประชาชน จนทำให้เกิดหนี้สินเป็นจำนวนมาก รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งคลายหนี้ ตามมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน จัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ซึ่งต้องเกิดจากความสมัครใจ และเกิดความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
จากนั้น ได้พบปะประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยผู้เข้าร่วมโครงการมหกรรมแก้หนี้ฯ กล่าวด้วยความรู้สึกดีใจว่า เป็นวิธีที่ดีมาก การเข้ามาไกล่เกลี่ย ยื่นปรับปรุงโครงสร้างหนี้ จะช่วยให้หนี้สินเบาบางลง เนื่องจากมีรายได้น้อย การลดภาระหนี้ในแต่ละเดือนให้น้อยลง ทำให้มีเงินส่วนหนึ่งนำมาชดใช้หนี้ อีกส่วนนำไปดำรงชีวิต ทำให้หนี้สินไม่พอกพูนจนไม่สามารถจ่ายได้ ลดการถูกฟ้องร้องในอนาคต การเข้าร่วมโครงการมหกรรมแก้หนี้ฯ จึงทำให้การใช้ชีวิตดีขึ้น และชื่นชมโครงการนี้มีผลดีต่อตน เนื่องจากวันนี้ได้เข้ามายื่นปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สามารถชำระหนี้ในแต่ละเดือนน้อยลง ทำให้จะสามารถมีเงินมาจ่ายหนี้ได้ครบทุกเดือน โดยไม่ทำให้ตนเองและครอบครัวขัดสนในการใช้จ่ายด้วยส่วน ลูกหนี้ที่ต้องมาชดใช้หนี้แทนครอบครัว
โครงการมหกรรมแก้หนี้ฯ เกิดขึ้น โดยได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพูดคุย เจรจา ได้รับข้อมูล คำปรึกษาในการไกล่เกลี่ยหนี้สิน ทราบแนวทางในการชดใช้หนี้สิน สามารถแบ่งเบาภาระหนี้ ใช้หนี้ได้ครบถ้วน และสามารถดำรงชีพได้ รัฐบาลมาช่วย ก็เหมือนช่วยบรรเทาหนี้สินให้ประชาชน ประชาชนก็จะมีความสุขมากขึ้น
ประนพ นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ จ.เพชรบุรี รายงาน
