วันที่ 27 สิงหาคม 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป)/ผอ.ศอ.ปส.ตร (บิ๊กต่าย) นาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายศราวุธ ภักดี ผอ.ป.ป.ส.ภาค6 ร่วมแถลงข่าวจับพ่อค้ายาเสพติต พร้อมของกลาง ที่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ สภ.บ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี โดยมี สื่อมวลชน หลากหลายสำนักร่วมทำข่าวการจับกุมในครั้งนี้
ทางด้าน ป.ป.ส.ภาค6 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตระหนักและเห็นว่ายาเสพติดคือปัญหาสำคัญของชาติ ให้ทุกกองบัญชาการตำรวจดำเนินการทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า สกัดกั้นการลำเสียงไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศ การปราบปรามจับกุมทั้งผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย รวมถึงการบำบัดผู้เสพ การปราบปรามยาเสพติดอย่างเร่งด่วน ทางตำรวจภูธรภาค ๖ จึงได้กำชับให้ตำรวจภูธร จังหวัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
ทางตำรวจภูธรจังหวัดตาก ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนและเป็นเส้นทางจากทางภาคเหนือสู่ภาคกลาง จึงให้ทุกสถานีตำรวจและกองกำกับการสืบสวนดำเนินการสืบสวนหาข่าวและข้อมูลต่างๆ จากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด จึงได้ทราบ ว่ามีขบวนการค้ายาเสพติดจากแนวชายแดนและทางภาคเหนือ สักลอบผ่านพื้นที่จังหวัดตากเพื่อนำสู่เข้า พื้นที่ชั้นในของประเทศ เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าวตำรวจภูธรจังหวัดตากจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสาน ข้อมูลกับ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค ๖ แล้วได้ร่วมกันวางแผน จัดกำลังเฝ้าดูพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการ ดังกล่าว และพบว่ามีความเคลื่อนไหว จึงเชื่อว่าน่าจะมีการปฏิบัติการขนยาเสพติดเร็วๆ นี้
ต่อมาในวันที่23 สิงหาคม 2567 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าดูตามจุดต่าง ๆ แจ้งว่าพบขบวนรถที่ต้องสงสัยวิ่งไปตามถนนสายรองมุ่งหน้าไปทาง จ.สุพรรณบุรี ชุดจับกุมจึงได้ขับรถสะกดรอยติดตาม จนเข้าพื้นที่ของ สภ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี และได้ตัดสินใจเข้าสกัดกั้นรถยนต์เป้าหมาย พร้อมกับประสาน สภ.บ้านไร่ ช่วยสกัดจับรถจักรยานยนต์ ขณะเข้าสกัดจับรถยนต์เป้าหมาย คนขับรถ (ทราบชื่อภายหลัง คือ นายขันติ วงษ์มา) ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจำนวนหลายนัด ทางเจ้าหน้าตำรวจจึง ยิงตอบโต้ที่ยางรถยนต์ จนยางรถยนต์แตกไม่สามารถไปต่อได้ นายขันติ ๆ อาศัยความมืดหลบหนีไปได้จากการตรวจสอบรถยนต์ดังกล่าวพบ ยาไอซ์ จำนวน2 กระสอบ น้ำหนักรวม 50 กิโลกรัม มูลค่า 500 ล้านบาท ยาบ้า จำนวน24 กระสอบ รวม 4,800,000เม็ด มูลค่า 144 ล้านบาท เฮโรอีน จำนวน6 กระสอบ จำนวน600 แท่ง มูลค่า 180 ล้านบาท เคตามีน จำนวน10 กระสอบ น้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม มูลค่า240ล้านบาท รวมมูลค่ายาเสพติด ประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ จึงได้ยึดเป็นของกลางพร้อมกันนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหา3คน ประกอบด้วย 1.นายธเนศ หรือเนศ อุมัน อายุ 39 ปี ทำหน้าที่ขับนำ/ปิดท้าย 2. นายจิรวัฒน์ หรือนายแดง เซี่ยงหวือง อายุ 36 ปี ทำหน้าที่ขับนำ/ปิดท้าย 3.นายอดิษฐ หรือดิษ วงษ์มา อายุ 41 ปี ทำหน้าที่ขับนำสำรวจเส้นทาง นายขันตี หรือตั้ม วงษ์มา พื้นเพเป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลัค รีโว้ สีเทา ทะเบียน 37 ฎ 4336 กทม. พร้อมยึดของกลางเพิ่มเติม ดังนี้ 1. รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลัครีโว้ สีเทา ทะเบียน 37 ฎ 4336 กทม. ใช้ลำเลียงยาเสพติด 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอซ่า สีดำ ทะเบียน ขษ 9318 กทม. ใช้นำเส้นทาง 3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น S100•XR สี ขาว น้ำเงิน แดง ทะเบียน 5ขฎ 12 กทม. ใช้นำเส้นทาง 4.รถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีขาว ทะเบียน กก 468 กทม. ใช้นำเส้นทาง 5.โทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อสื่อสาร จำนวน7เครื่อง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า1. ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์, ยาบ้า, เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าฯ 2.ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าฯในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เพิ่มเติมแจ้งข้อหานายขันตี ที่หลบหนีการจับกุม ในข้อหา ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่, พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้ออกหมายจับไว้ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นได้ขยายผลตรวจยึดทรัพย์ที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจำ 1.รถยนต์กะบะ 2คัน 2.รถ จยย.5คัน 3.รถบรรทุก 6ล้อ 1คัน 4.กรอบทองพร้อมพระ จำนวนหลายองค์ มูลค่าทรัพย์สินรวม 3ล้านบาทเศษ
สมพงษ์ ณรงค์มี ผู้สื่อข่าว จังหวัดอุทัยธานี รายงาน
