เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 มูลนิธิปิยะศักดิ์ 1955 ได้จัดกิจกรรมอบรมเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงโคแก่สมาชิก โดยนางศรานันท์ คูโคเวค ประธานมูลนิธิปิยะศักดิ์ 1955 มอบหมายให้ นายประทวน สุวรรณ์ รองประธานมูลนิธิฯ นำคณะทำงานมูลนิธิจากหลายจังหวัด กว่า 250 คน เข้าร่วมการอบรมที่โครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ด้านปศุสัตว์) ศูนย์เครือข่าย ศพก. (ด้านปศุสัตว์) อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการเลี้ยงโคให้แก่สมาชิก
การอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายสามารถ ดาวเศรษฐ์ ปศุสัตว์อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม มาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงโคคือ นายธนูศร ปัญญาสาร ผู้อำนวยการศูนย์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการเลี้ยงโคและการจัดการฟาร์มแบบครบวงจร ให้ความรู้และแนวทางการปรับปรุงวิธีการเลี้ยงโคให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นายธนูศร ปัญญาสาร ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวเปิดเผยถึงแนวคิดและประสบการณ์ในการเลี้ยงโค โดยเล่าว่าตนเองเคยมีความคิดที่ต้องการมีพื้นที่กว้างขวางเพื่อเลี้ยงโคแม่พันธุ์จำนวนมาก ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 50 ตัว เพื่อนำมาผลิตโคต้นน้ำสำหรับการเลี้ยงขุนในฟาร์ม ให้ได้ปีละ 30-40 ตัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาระหน้าที่ราชการ ทำให้เขาไม่มีเวลาว่างและไม่มีพื้นที่เพียงพอ รวมถึงการขาดแคลนแรงงาน ทำให้ความฝันดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก และคงต้องรอจนถึงช่วงเกษียณอายุ
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ศึกษาดูงานและได้ประสบการณ์ในการเลี้ยงโคที่ผ่านมา ทำให้นายธนูศรเปลี่ยนแนวคิด จากการเลี้ยงโคแบบไล่ทุ่งที่ใช้พื้นที่และแรงงานมาก มาเป็นการเลี้ยงโคแบบประณีต เน้นการจัดการที่เหมาะสม อาทิ การดูแลสุขภาพ การให้อาหารที่มีคุณภาพ และการป้องกันโรค ทำให้การเลี้ยงโคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้เวลาและแรงงานน้อยลง และไม่ส่งผลกระทบต่องานที่ทำอยู่ ซึ่งเป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเลี้ยงโคในระดับครอบครัวหรือแบบผสมผสานกับงานอื่น
นางบุญเรือง ตะมะโน ประธานมูลนิธิฯ จังหวัดสระแก้ว หนึ่งในสมาชิกที่เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ ได้แสดงความรู้สึกดีใจที่ได้รับโอกาสเรียนรู้การเลี้ยงโคในรูปแบบใหม่ นางบุญเรืองเล่าว่า ก่อนหน้านี้ที่บ้านเคยเลี้ยงโคแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นการปลูกหญ้าในพื้นที่ 5-10 ไร่ แล้วปล่อยโคเข้าไปในพื้นที่ที่ล้อมรั้วไว้ การเลี้ยงแบบนี้มักใช้วิธีการดูแลที่ไม่ได้เน้นการปรับปรุงคุณภาพโคหรือเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืน
การได้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ทำให้เธอได้รับความรู้และแนวคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงโค เช่น การจัดการเลี้ยงในฟาร์มที่เน้นคุณภาพ การใช้เทคโนโลยีและกระบวนการจัดการที่มีประสิทธิภาพ การปรับปรุงโภชนาการของโค การจัดการโรคที่เหมาะสม และการดูแลสุขภาพโคเพื่อเพิ่มผลผลิตในฟาร์ม นางบุญเรืองยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การอบรมนี้ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงโคในลักษณะที่สามารถช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับครอบครัวและสมาชิกในชุมชนได้
นอกจากการอบรมเชิงปฏิบัติการและการบรรยายแล้ว กิจกรรมนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเกษตรกรและวิทยากร ทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับข้อมูลที่หลากหลายและสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้กับฟาร์มของตนเองได้อย่างเหมาะสม เกษตรกรที่เข้าร่วมหลายคนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางในการจัดการฟาร์มโค ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างชุมชนเกษตรกรในแต่ละพื้นที่
ความสำคัญของการอบรมครั้งนี้ มูลนิธิปิยะศักดิ์ 1955 มีเป้าหมายในการส่งเสริมการเลี้ยงโคให้แก่สมาชิกในเครือข่าย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตและเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิก การอบรมเช่นนี้ช่วยให้สมาชิกได้รับข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาอาชีพเลี้ยงโคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การอบรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานของมูลนิธิปิยะศักดิ์ 1955 ที่เน้นการสนับสนุนและพัฒนาอาชีพการเกษตรในชุมชน โดยเฉพาะการเลี้ยงโคซึ่งเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชนในระยะยาว ทั้งนี้ การเลี้ยงโคไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร แต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ที่สามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในชุมชน
ในอนาคต มูลนิธิปิยะศักดิ์ 1955 มีแผนที่จะขยายโครงการฝึกอบรมการเลี้ยงโคไปยังจังหวัดอื่น ๆ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเกษตรกร และส่งเสริมการพัฒนาฟาร์มโคแบบยั่งยืนในทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งนี้มูลนิธิจะเดินหน้าต่อไปเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอาชีพการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ในชุมชน และมุ่งหวังที่จะเห็นสมาชิกมูลนิธิและเกษตรกรในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้ที่มั่นคง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
กองบรรณาธิการประชาไทนิวส์ออนไลน์
นายพิษณุ ปาละสิงห์ ผู้สื่อข่าว นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ รายงาน
โย ประเด็นรัฐ