เมื่อวันที่12 พฤษจิกายน 2567 เวลา 10:00 น. นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว ณ แปลงนาสาธิต บ้านเหล่าส้มป่อย ต.นาทม อ.นาทม จ.นครพนม
โดยมีนายธีรเดช โปสพันธุ์ นายอำเภอนาทม และข้าราชการทุกภาคส่วนมาร่วมงานในครั้งนี้ นางพรเพชร เกล ผู้ตรวจคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนม กล่าวเรียนท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดรักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร พร้อมคณะและหน่วยงานราชการภาครัฐและเอกชนทุกท่านที่มาร่วมงาน
นางพรเพชร กล่าวว่า ด้วยคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนมได้เรียนเชิญท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมในเวลานั้น มาร่วมงานปักกล้าดำนาของจิตอาสาจังหวัดนครพนมท่านติดภารกิจท่านจึงมอบหมายให้ นางสาวสายสุณี ปั้นพงษ์ หัวหน้าเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนมมาเป็นประธานร่วมกิจกรรมปักกล้าดำนาในโครงการแปลงนาสาธิตแบบผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ณ แปลงนาสาธิตบ้านเหล่าส้มป่อย ต.นาทม อ.นาทม จ.นครพนม ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา คณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนมได้ทำการหว่านกล้าในวันที่ 12 มิถุนายน 2567 และทำการปักกล้าดำนาในวันที่ 26 กรกฎาคมพ.ศ 2567 ได้ล่วงเลยเป็นเวลามาแล้ว 127 วันและวันนี้วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ข้าวในนาได้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนมจึงได้จัดงานสืบสานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวและสู่ขวัญข้าวหรือพระแม่โพสพในวันนี้ วัตถุประสงค์ในการจัดงานลงแขกเกี่ยวข้าวเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามให้คงอยู่คู่ชุมชนตลอดไป เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางของจังหวัดนครพนม 2 เพื่อให้ชุมชนได้มีความเสียสละและรักสมัครสมานสามัคคีในชุมชนเข้มแข็ง 3 อนาคตข้างหน้าคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนมมีโครงการแปลงนาสาธิตแบบผสมผสานเพิ่มขึ้นอีก 30 ไร่ ข้าพเจ้านางพรเพชร เกล ผู้ตรวจการคณะทำงานจิตอาสาประจำจังหวัดนครพนมพร้อมด้วยประธานคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนม นางสาวนลินชนัน กลางคำ แล้วคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนมทุกคนมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมรักษาการแทนผู้ว่าจังหวัดนครพนมที่ได้มาร่วมงานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวณแปลงนาสาธิตของคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนมในวันนี้
ทางด้าน นายปราชญา เปิดเผยว่า วันนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีถือโอกาสได้ลงพื้นที่มาร่วมกับพี่น้องกันคณะทำงานจิตอาสาในการที่จะช่วยกันอนุรักษ์ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวซึ่งเป็นสิ่งที่เริ่มเลอะเลือนหายไปจากสังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ทุกอย่างต้องจ้างสำหรับการลงแขกเกี่ยวข้าวก็ทราบจากทีมงานว่า ณที่นี้เป็นพื้นที่แปลงนา สาธิตเป็นศูนย์การเรียนรู้ในการที่จะให้พี่น้องประชาชนที่จะทำเกษตรแบบผสมผสานทฤษฎีใหม่ ทั้งทางด้านพืชด้านปศุสัตว์ ด้านประมงผสมผสานกันไปซึ่งเขาบอกว่าไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวเป็นเพียงหลักการทางเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นเพียงหลักการที่ต้องปรับประยุกต์ให้เข้ากับพื้นที่สภาพดินฟ้าอากาศ หลักการเขาก็บอกว่าแบ่งดินทำกินของเราให้เป็น 30 /30/ 10 30 แรกก็คือจะต้องมีแหล่งน้ำการทำสวนทำไร่ก็คือจะต้องมีน้ำ 30% แหล่งน้ำก็เลี้ยงปลาเป็นอาหาร 30% ที่สองก็คือพื้นที่ที่จะทำนาปลูกข้าว พื้นที่ที่สามเป็นพื้นที่ทำสวนทำไร่ผมบอกว่าอาจจะปลูกผลไม้ตามสภาพพื้นดินตามสภาพอากาศในช่วงที่ผ่านมา จังหวัดนครพนมก็จะเป็นเส้นทางผ่านของการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนทางรถผ่านสะพานมิตรภาพไปสู่เมืองจีนปีนี้ ก็เป็นจำนวนมากทางจังหวัดก็ เปิดการอบรมแล้วก็แจกจ่ายต้นทุเรียนไปให้พี่น้องประชาชนได้ทดลองปลูก แต่เดิมผมอยู่ทางชลบุรี ชลบุรีก็มีปลูกทุเรียนก็เป็นแหล่งที่สำคัญของประเทศการปลูกทุเรียนดูเป็นเรื่องง่ายครับแต่ที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับการดูแลบางทีก็เสีย บางทีก็ตายไม่ว่าจะเป็นพวกโรคพืชโรคเชื้อรา พยามบอกท่านเกษตรสหกรณ์ จังหวัดในการประชุมข้าราชการส่วนภาคต้องเชิญชวนลูกหลานที่เราทำสวนทุเรียนที่อยู่แถวจันทร์ ระยอง ตราด ให้กลับมา ทำสวนทุเรียนเป็นตัวอย่างช่วยบอกช่วยแนะนำพี่น้องที่สนใจจะปลูกทุเรียนวิธีการดูแลบำรุงรักษา ทั้งนี้ ผมขอกล่าวเปิดงาน ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว ในครั้งนี้
จากนั้น นางศรานันท์ คูโคเวค ประธานจิตอาสา ได้มอบหมายให้ นายประทวน สุวรรณ์ รองประธานจิตอาสา นำคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดนครพนม และคณะทำงานจิตอาสาจังหวัดบึงกาฬ เข้าร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว สืบสานประเพณีในครั้งนี้
นายพิษณุ ปาละสิงห์ ผู้สื่อข่าว นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ รายงาน
